ไทยลีกกระแสจากอดีตจนถึงปัจจุบัน

ซึ่งกระแสของบอลไทยในประเทศไทยถือว่าเป็นกระแสที่ดีมาตลอด ซึ่งตัวของผมเองนั้นพึ่งเข้าวงการของฟุตบอลไทยในช่วง 10ปี ที่ผ่านมานั้นเองต้นกำเนิดจากการที่มีคนรู้จักเชิญชวนเข้าไปดูฟุตบอลลีกอาชีพที่โด่งดังอยู่ในขนาดนั้น นั่นก็คือสโมสรเมืองทองยูไนเต็ดซึ่งถือว่ามีนักเตะที่มีชื่อเสียงอยู่ในสโมสรแห่งนั้นมากมายมากๆ ไม่ว่าจะเป็น ธีรศิลป์ แดงดา กวิน ธรรมสัจจานันท์ ภานุพงศ์ วงศ์ษา ดัสกร ทองเหลา มาริโอ ยูรอฟกี้  ลี ซอ หรือ คนอื่นๆอีกมากมายในตอนนั้น ซึ่งตอนนั้นการเข้าสนามแต่งละครั้งของแฟนบอลก็จะเต็มไปด้วยการใส่เสื้อของทีมสโมสรซึ่งถือว่าเป็นกระแสฟรีเวอร์ของการแข่งขันฟุตบอลอาชีพของประเทศไทยเป็นอย่างมาใครจะรู้ว่าถึงแม้ว่าบอกไทยที่ไม่ค่อยมีผลงานการแข่งขันเสียเท่าไหร่ แต่การแข่งขันฟุตบอลอาชีพเพื่อชิงถ้วยพระราชทานกลับเป็นกระแสโด่งดังตามจังหวัดใหญ่ๆที่มีทีมสโมสรอยู่มากมายนั่นเอง โดยที่การแข่งขันสายอาชีพของประเทศไทยมีลีกอยุ่หลายลีกมากมาย โดยที่ลีกสูงสุดของประเทศไทยมีชื่อว่าไทยลีก หรือชื่อเดิมที่ชื่อว่า ไทยพรีเมียร์ลีก นั่นเอง แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นเรื่องที่ไม่ขาดคิดกับการหมดยุคของ เมืองทองไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยผลงานต่างๆ และปัญหาต่างๆของสโมสรภายใน และเรื่องที่โลกฟุตบอลหมุนขึ้นอย่างรวดเร็วมีทีมฟุตบอลหน้าใหม่เกิดขึ้นมามาย และด้วยพลังของแฟนบอลก็มีส่วนทำให้ทีมเกิดกระแสอีกด้วย ซึ่งในฤดูกาล 2022 – 23 มีน้องใหม่เมืองเหนือเพิ่มขึ้นมาถึง 2 ทีมด้วยกัน คือ ลำพูน วอริเออร์ และ ลำปาง เอฟซี ทีมน้องใหม่ที่เรียกว่ามาแรงเช่นเดียวกัน กับลำพูน ส่วนลำปางนั้นเป็นทีมที่ใช้งบประมาณในการทำทีมน้อยที่สุดในไทยลีก และผลงานก็ยังไม่สามารถสู้กับทีมรุ่นพี่ได้นั่นเอง แต่ถือว่าแฟนบอลก็ยังไม่ลดศรัทธา เต็มสนามทุกนัดเพื่อทีมลำปาง และเป็นเอกลักษณ์เป็นอย่างมากเนื่องจาก แฟนบอลทุกคนไม่หยุดร้องเพลง 90 นาทีเต็มนั่นเอง โดยในตอนนี้การแข่งขขันในเลกที่ 2 กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในวันท่า 20 มกราคม เป็นต้นไป โดยที่ในช่วงปิดเลกนั้นก็ได้มีการแข่งขันฟุตบอลไทยในรายการ AFF Mitsubishi Electric Cup 2022 ที่สามารถป้องกัน แชมป์สมัยที่ 7 เรียกศรัทธาแฟนบอลชาวไทยอีกครั้ง และหลังจากนี้ก็ให้นักเตะได้กลับต้นสังกัดเพื่อที่จะทำการแข่งขันฟุตบอลลีก ที่กำลังเริ่มต้นขึ้นในเลกที่ 2 วันที่ 20 มกราคมเป็นต้นไปนั่นเอง

การแข่งขันไทยลีก 2 กับ 2 นัดที่ผ่านมา

โดยที่การแข่งขันที่ผ่านมาในเลกที่ 2 ที่พึ่งเปิดแข่งขันได้ 2 นัดกับการแข่งขันที่เรียกได้วว่าดุเดือดเช่นเดียวกันกับทีมเต็งๆ ที่เสริมตัวนักเตะได้อย่างคุ้มค่า เป็นการเสริมตัวเพื่อที่จะลุ้นขึ้น T1 อย่างเป็นทางการแน่นอน โดยผลงานที่มีจ่าฟูงในนัดที่ 19 เป็น นครศรี ยูไนเต็ด ที่ในเลกที่ 2 เสริมตัวไทยลีก อย่าง เกริกฤท์ และยังมีเสริมตัวในแดนหน้าอีกหลายตัวนั่นเอง และอันดับ 2 ที่สุพรรณบุรี กับการแข่งขันที่เรียกได้ว่า 5 นัดล่าสุดเขายังไม่แพ้ใครเลย และอันดับ 3 นครปฐม ยูไนเต็ด ที่เสริมตัวผู้เล่นอย่างกัปตันช้าง กัปตันฟุตซอลทีมชาติไทย ที่ทดลองฝีเท้ามาลงเล่นสนามหญ้าเพื่อเป็นประสบการณ์นั่นเอง ด้วยแววความเป็นนักเตะเก่าของโค้ชธง เชื่อมั่นได้เลยว่า เลือกคนไม่ผิดอย่างแน่นอน และสำคัญถึงเรื่องราวของกุนซือเฒ่าอย่าง สมชาย ชวยบุญชุ่ม กุนซือเชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่มีกระแสข่าวกับนักเตะในเรื่องของการวิ่ง ซึ่งเขาเองก็เป็นอย่างนั้นมาแต่ไหนแต่ไร กับการพานักเตะวิ่ง ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นนักวิ่งมากกว่านักบอล แต่ผลงานของน้าฉ่วย ก็สามารถช่วยให้หลายทีมขึ้นไปสู่ไทยลีกได้หลายทีมเช่นเดียวกัน ลีกพระรองกับกฎกติกาการแข่งขันก่อนจะขึ้นไปสู่ลีกสูงสุด ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าไทยลีก 2 ในเลกที่ 2 นี้ก็ดุเดือดไม่แพ้กันแน่นอน เพราะยังมีทีมเต็งๆ ที่ต้องการจบอันดับเลขตัวเดียวให้ได้ในฤดูกาลนี้อย่างเช่นตราด เอฟซี ที่ถึงแม้ว่าในฤดูกาลนี้จะไม่มีบทบาทอะไรเสียเท่าไหร่ แต่เชื่อเถอะว่าจบฤดูกาลนี้ ยังมีหวังไปแข่งขันแชมป์เปี้ยนลีก เหมือนกันนะทำได้อยู่แล้ว

ผลงานล่าสุดของทีมชาติไทย

การแข่งขัน AFF Mitsubishi Eclectic Cup 2022 เป็นการแข่งขันฟุตบอลถ้วยที่หน้าติดตามมากที่สุดในเวลานี้ เนืองจากว่าเป็นการแข่งขันที่ทีมชาติไทยที่กำลังอยู่ในจ่าฟูงของกลุ่ม A ได้คะแนนดีที่สุด และในนัดสุดท้ายเขาก็สร้างผลงานที่ดีที่สุด เพื่อเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มเอ โดยที่ในนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มนี้ เป็นนัดที่แข่งขันกับทีมชาติกัมพูชา ที่เรียกได้ว่าทีมชาติกัมพูชาได้ยกระดับอาชีพฟุตบอลขึ้นมาเป็นอย่างมาตากหลักการการวิเคราะห์บอลจากเซียนฟุตบอลต่างๆ เพราะในเกมการแข่งขันในช่วง 30 นาทีแรก ที่ทีมชาติไทยไม่สามารถที่จะเจาะเข้าประตูของทีมชาติกัมพูชาได้เลยแม้แต่ประตูเดียว ซึ่งถือว่าเป็นงานไม่หมูสำหรับทีมชาติไทยเช่นเดียวกันซึ่งก็ทำเอามาโน่ โพลกิ้ง นั่งหน้าเครียดอยู่ระยะหนึ่งในการแข่งขันนั่นเอง แต่แล้วก่อนหมดครึ่งแต่ทีมชาติไทยก็สามารถตีไข่แตกจนได้จากจุดโทษโดย ธีรศีลป์ แดงดา ในช่วงนาทีที่ 46 ทำให้หมดเวลาในครึ่งแรก 1 – 0 ประตู และเริ่มเกมมาในช่วงต้มเกมหลังที่เป็นทีมชาติไทยได้ประตูที่ 2 จาก สุมัญญา ที่ไถลลูกเข้าประตู อย่างสวยงาม ทำให้ทีมชาติไทยนำทีมชาติกัมพูชา 2 – 0 ประตู หลังจากนาที 50 เป็นต้นไทย เป็นการพลัดกับบุกรับบุกสู้ของทั้งสองทีม และจะเป็นทางกัมพูชาที่ได้เปรียบ ทำให้ในนาทีที่ 67 กัมพูชาได้ประตูตีไข่แตกไล่ขึ้นมาเป็น 2 – 1 ประตู ทำเอาแฟนบอลกับพูชาที่อยู่ในสนามนั้น เฮลั่นอัฐจรรย์กันเลยทีเดียว  แต่หลังจากนั้นก็เป็นทางทีมชาติไทย ที่บุกสู้อีกครั้งในช่วงท้ายเกม และแฟนบอลบางคนนั้นก็บ่นถึงตัวนักเตะมากมายแต่แล้วก่อนหมดเวลาการแข่งขันนั้น เป็นลูกที่เรียกว่าฝากลูกไว้ที่พี่มุ้ย ที่เจ้ามุ้ย ธีรศีลป์ แดงดา สามารถทำประตูที่ 3 ในนาทีที่ 89 ทำให้ทีมชาติไทยขึ้นนำเป็น 3 – 1 ประตู และหลังจากที่กรรมการเป่าหมดเวลาการแข่งขัน ก็เป็นทีมชาติไทยที่เอาชนะ ทีมชาติกัมพูชาไปถึง 3 – 1 ประตู และทำให้ทีมชาติไทยได้ขึ้นจ่าฟูงของกลุ่ม A แทนที่ทีมชาติอินโดนีเซีย ที่ในนัดที่แล้ว ทีมชาติไทยทำได้เพียงเสมอทีมชาติอินโดนีเซีย 1 – 1 ประตู แต่ก็ได้ขึ้นเป็นจ่าฟูงของกลุ่มA และเข้ารอบไปพบกับที่สองของกลุ่ม B ซึ่งจะแข่งขันกันในวันที่ 7 มกราคม 2566 นี้ แล้วมาลุ้นกันว่าทีมชาติไทยจะเป็นอย่างไรต่อไปกับการแข่งขันฟุตบอลถ้วยอาเซียนคัพ 2022 ในครั้งนี้